พระพิฆเนศวร (ภาษาสันสกฤต : คเณศ) ,พระพิฆเนศ ,พระพิฆเณศ ,พระวิฆเณศวร ,พระพิฆเณศ ,พระคเณศ ,คณปติ
เป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ นับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ
ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง เป็นหัวหน้านำคณะข้ามความขัดข้อง (ผู้เป็นใหญ่เหนือความขัดข้อง)
มีรูปกายเป็นมนุษย์อ้วนเตี้ย ท้องพลุ้ย มีเศียรเป็นช้าง
มีงาข้างเดียว (ถูกขวาน ปรศุรามหักเสียงา)
สีกายสีแดง (บางแห่งว่าผิวเหลือง นุ่งห่มแดง)
มีสี่กร(มือ)
พระหัตถ์หน้าขวาถืองาช้าง
พระหัตถ์ซ้ายถือขันน้ำมนต์ เป็นกระโหลกศีรษะมนุษย์
พระหัตถ์หลังขวาถือ ตรี
พระหัตถ์ซ้ายหลังถือบาศ (บ่วง)
พาหนะคือ หนู
ตำนานเล่าไว้ว่า
ในคราวที่พระศิวะเทพทรงไปบำเพ็ญสมาธิเป็นระยะเวลานานนั้น
พระแม่ปารวตีจึงต้องอยู่องค์เดียวโดยลำพังจึงทรงเกิดความเหงา
และประสงค์ที่จะมีผู้มาคอยดูแลพระองค์และป้องกันคนภายนอกที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายในพระตำหนักใน
จึงทรงเสกเด็กขึ้นมาเพื่อเป็นพระโอรสที่จะเป็นเพื่อนในยามที่องค์ศิวเทพเสด็จออกไปตามพระกิจต่าง ๆ
มีอยู่คราวหนึ่งเมื่อพระนางทรงเข้าไปสรงในพระตำหนักด้านในนั้น
องค์ศิวเทพได้กลับมาและเมื่อจะเข้าไปด้านในก็ถูกเด็กหนุ่มห้ามไม่ให้เข้า
เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นใครและ ในขณะเดียวกันศิวเทพก็ไม่ทราบว่าเด็กหนุ่มนั้น
เป็นพระโอรสที่พระแม่ปารวตีได้เสกขึ้นมา
เมื่อพระองค์ถูกขัดใจก็ทรงพิโรธและตวาดให้เด็กหนุ่มนั้นหลีกทางให้
พลางถามว่ารู้ไหมว่ากำลังห้ามใครอยู่ ฝ่ายเด็กนั้นก็ตอบกลับว่าไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ว่าเป็นใคร
เพราะตนกำลังทำตามบัญชาของพระแม่ปารวตี และทั้งสองก็ได้ทำการต่อสู้กันอย่างรุนแรง
จนเทพทั่วทั้งสวรรค์เกิดความวิตกในความหายนะที่จะตามมา
และในที่สุดเด็กหนุ่มนั้นก็ถูกตรีศูลของมหาเทพจนสิ้นใจและศีรษะก็ถูกตัดหายไป
พระพิฆเนศ ซึ่งแปลว่า เทพผู้ขจัดปัดเป่าอุปสรรค
และยัง ทรงให้พรว่าในการประกอบพิธีการต่าง ๆ ทั้งหมดนั้น
จะต้องทำพิธีบูชาพระพิฆเนศก่อนเพื่อความสำเร็จของพิธี